ว่านขันหมากเศรษฐี

ว่านขันหมากหรือขันหมากเศรษฐี เป็นว่านที่ปู่ย่าตายายสมัยโบราณนำมาใช้รักษาโรคชนิดต่างๆเพราะในเมล็ดของว่านขันหมากมีเอนไซด์ที่ช่วยให้ระบบต่างๆของร่างกายมนุษย์ทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งและป้องกันรักษาเซลล์เนื้อร้ายต่างๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รักษาอาการภูมิแพ้ หอบหืด โรคกระเพาะ โรคลำไส้ ทางเดินอาหาร ปวดท้องบิด ตะคริว มือเท้าชา ปวดตามแข้งขา เส้นเอ็นตึง รักษาไข้และอาการไอได้ รักษามะเร็งระยะต่างๆ เนื้องอก ซิสส์ เบาหวาน ความดัน ยับยั้งความเสื่อมชราของร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ป้องกันความเสื่อมทางด้านเพศ เป็นสมุนไพรที่มีงานวิจัยรับรองอย่างมากมาย ส่วนต้นเชื่อกันว่านำมาปลูกประดับบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย ป้องกันภูติผีได้ ถ้าใครนำมาปลูกแล้วขันหมากออกดอกเชื่อกันว่าเจ้าของบ้านจะมีแต่โชคดี เงินไหลนอง ทองไหลมา เพราะต้นนึงจะออกดอกออกผลใช้เวลาร่วม 3 ปีทีเดียว ถ้าทุกท่านต้องการข้อมูลมากกว่านี้สอบถามได้นะครับ

ว่านขันหมาก ว่านเศรษฐี สรรพคุณมากมายใช้ป้องกัน ดูแลรักษาโรค

“คนเป็นส่วนมากกลัวแก่ อยากมีรูปร่างผิวพรรณสดใสวัยละอ่อนตลอดกาล และอยากมีอายุยืนยาว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บรบกวน “ว่านขันหมาก” จัดเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณดีทางด้านยาอายุวัฒนะมาแต่โบราณแล้ว โดยตำรายาแผนโบราณไทยระบุว่า ผลสุกของว่านขันหมาก ถ้ากินประจำทุกวัน วันละ 5 ผล ก่อนนอน กำกับด้วยคาถาพระเจ้า 5 พระองค์ คือ " นะ โม พุท ธา ยะ " 5 คาบก่อนทาน เป็นยาอายุวัฒนะชั้นเยี่ยม ทำให้คงความเป็นหนุ่มสาว ไม่รู้จักแก่ อายุยืน เนื้อหนังเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น ฟันทนไม่หักหลุด ผมไม่หงอก ทำให้เกิดเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น มีพละกำลังมาก เดินเหินคล่องแคล่ว ไม่รู้จักเมื่อยขบ ช่วยรักษาและบรรเทาอาการเจ็บปวดตามร่างกาย ตามข้อ เส้นเอ็น ได้ดี
ว่านขันหมาก อยู่ในสกุลเดียวกับว่านสาวน้อยปะแป้ง ลำต้นแทงจากเง่าใต้ดินสูงเต็มที่เท่าที่เคยเห็นประมาณ 2 เมตรในป่าลึกๆ มีสีเขียวเป็นข้อ ๆ อวบน้ำเล็กน้อย ใบขนาดฝ่ามือ สีเขียวสด ปลายใบแหลม ใบเดี่ยวออกสลับ ออกใบที่ปลายต้นแบบต้นหมาก ต้นหนึ่งมีใบไม่เกิน 10 ใบ ดอกสีขาว ออกเป็นช่อที่ซอกใบ และก้านช่อดอกยาว ดอกมีรูปร่างลักษณะคล้ายดอกหน้าวัว แต่สีขาวโอบตัวช่อเกสรไว้ ผลรูปกลมรีคล้ายผลพิกุล หรือคล้ายลูกสลอดน้ำหรือลูกมิราเคิล ติดเป็นพวง 1-25 ผล แล้วแต่ความสมบูรณ์ของต้นนั้นๆผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเป็นสีเหลืองแกมส้ม หรือสีแดงสด โตขนาดปลายนิ้วก้อยมือผู้ใหญ่ ผลสุกรับประทานเป็นยาอายุวัฒนะ ชลอความแก่ เนื้อหนังเต่งตึง รักษาอาการภูมแพ้ หอบหืด อาการไอ ได้ชะงัด ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ขับมูกเมือก ของเสียในลำไส้ ต้านอนุมูลอิสระ เซลล์เนื้องอก โรคเรื้อรังต่างๆ เบาหวาน รักษาความดัน อัมพาตได้ โรคกระเพาะ โรคทางเดินอาหาร ผมมีตัวอย่างหลายร้อยเคสที่กินยาว่านขันหมาก โดยเฉพาะแฟนของผมเอง เป็นโรคกระเพาะมากว่า 2 ปี รักษามาตลอด คลินิคแต่ละที่ในตัวจังหวัดไปมาหมด อาทิตย์ละ 2 ครั้งต้องเอาตังค์ไปให้หมอ หมดเงินร่วมแสน ของหมักของดองก็ต้องงด หน่อไม้ก็กินไม่ได้ ยิ่งขนมจีนหรือข้าวปุ้นซาวของชอบของเขายิ่งต้องอด ผมเลยพาแฟนไปหาอาจารย์ที่ผมเคยบวชปฏิบัติกับท่านเมื่อ 3 ปีก่อน ท่านบอกว่ายารักษาก็ว่านขันหมากนั่นไง กินติดต่อกันวันละ 3-5 ผล ไม่ถึงเดือน อาการโรคกระเพาะ อาการแน่นในท้อง ของแฟนผมหายไป อาหารที่เคยงดเดี๋ยวนี้กินได้หมดแล้ว ผ่านมาเกือบ 2 ปี อาการของโรคกระเพาะก็ยังไม่กลับมา แสดงว่าหายจริงๆ เด็กที่ไม่สบายก็ให้ทานประจำ ดีกว่ายาพาราเสียอีก ยิ่งคนที่ท้องอืด ถ่ายยาก ยิ่งเห็นผลชัดเจน ขับสารพิษในร่างกายได้ดี
         การรับประทานว่านขันหมากนั้น แต่โบราณนิยมกลืนกินทั้งเม็ด ห้ามเคี้ยวเพราะจะมีรสคัน ปากลิ้นจะชา แต่ถ้ากลืนลงท้องแล้วไม่เป็นไร แต่กระเพาะอาหารก็ย่อยได้เฉพาะเปลือกผลเท่านั้น ที่เป็นเม็ดในก็หลุดออกมากับอุจจาระ หมอพืชอานนท์แนะนำ ให้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆหยิบหย่อนลงคอกลืนแล้วดึ่มน้ำตามมากๆ แต่ถ้านำมาตากแห้งเคี้ยวกินดูก็ไม่มีอาการคัน และมีรสมันหอมอร่อย แต่ถ้าทำผงอัดแคปซูลจะได้เนื้อยาทั้งหมดเลย ผล 7 ลูก เมื่อตากแห้งทำผงอัดแคปซูลจะได้ 1 แคปซูล ผลดิบ 7 กิโลกรัม เมื่อตากแห้งแล้วจะเหลือ 1 กิโลกรัม ชนิดแคปซูลรับประทานก่อนนอน วันละ 2-3 แคปซูล
    ผู้ที่ได้รับประทานว่านขันหมากส่วนมาก 95 % จะพึงพอใจ เพราะเพียง 1-2 อาทิตย์ก็จะพบว่าหน้าตาเปลี่ยนเป็นขาวผุดผ่องเหมือนหนุ่มสาว ร่างกายแข็งแรง โรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ก็มีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงมักมีผู้สั่งซื้อเป็นโหลๆอยู่หลายท่าน บางท่านก็อยากได้ชนิดเม็ดสด บางท่านก็ชนิดแคปซูล บางท่านก็สั่งแบบดองน้ำผึ้ง บางท่านสั่งต้นไปปลูก 
    เนื่องจากลูกว่านขันหมากเป็นของหาได้ยาก ถึงจะมีมากก็มีจำนวนจำกัด ดังนั้นผู้ที่มีโอกาสได้กินต้องถือว่ามีบุญจริง ๆ ผมทดลองนำต้นที่มีลูกเล็ก ๆ ติดอยู่มาปลูกตั้งแต่กลางปี  จนถึงบัดนี้ผ่านมา 2 ปีกว่าๆลูกยังเขียวสดอยู่เลย ส่วนที่ยังไม่มีลูกก็แทงดอกให้เห็นเป็นประจำแต่ต้องปลูกแบบอิงธรรมชาติให้ได้มากที่สุดนะครับ เพราะเมื่อพิจารณาดูพื้นที่ตามธรรมชาติที่ต้นว่านขึ้นแล้วสังเกตเห็นว่าว่านชนิดนี้ชอบขึ้นบนแอ่งหินปูน ตามรอบถ้ำ ตามภูเขาหิน ริมหน้าผา ผลของต้นมักจะเป็นอาหารของพวกกระรอก กระแต ไก่ป่า นก หนู ทำให้หาผลของต้นว่านชนิดนี้ได้ยากมาก ถ้าลูกสุกหล่นลงบนหินปูนที่พอมีดินหล่อเลี้ยงก็จะงอกต้นขึ้นตรงนั้น  และต้นที่ให้ผลแล้วก็จะเว้นระยะให้ผล ไม่ทราบว่าอีกกี่ปีจึงจะให้ผลอีก เพราะได้ไปสำรวจต้นที่ไปเก็บผลมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา พอปลายปีนี้ไปสำรวจอีก ปรากฏว่าไม่มีผลให้เห็นเลย คงพบแต่ต้นเป็นดงดานเต็มไปหมด นับเป็นพันธุ์ไม้ที่ติดผลยากจริง ๆ คาดว่ากระบวนการตั้งแต่เริ่มตั้งช่อดอกออกลูกและสุกแดงเต็มที่น่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี
                      http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html


      ข่าวด่วนนะครับต้อนรับปี 2560 นี้..ผมมีว่านขันหมากสกัด บรรจุเป็นแคปซูลให้กับผู้ที่ต้องการนำไปรับประทานกันแล้วครับ คิดว่าปีนี้น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของพี่น้อง 1 ขวด บรรจุ 108แคปซูล เพียงแค่ 999 บาท แค่นั้นครับ ตลอดทั้งมีลูกสุกสดๆ ดองน้ำผึ้ง และท่านใดที่ต้องการต้นว่านไปปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล ผมมีหลายรุ่น หลายขนาด ให้กับทุกท่านนะครับ..สอบถามโดยตรงที่ หมอพืชอานนท์ 090-9569093 , 089-6889946 
                            ประวัติโรคภูมิแพ้ที่เกิดกับหมอพืชอานนท์
          ตามแนวทางการดูแลตัวเองของผมหมอพืชอานนท์ ซึ่งมีประสบการณ์การเป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่กำเนิดนะครับ สมัยเด็กๆจะแพ้อากาศเย็นและร้อนอยู่ตลอดเวลา จะมีขี้มูกอยู่ในรูจมูกทำให้เกิดความรำคาญอยู่ตลอดเวลา ช่วงตื่นนอนก็จะมีเสลด เวลาเข้าห้องน้ำทรมานมากต้องบ้วนเสลดทิ้งตลอด พอตอนอายุ 20 ปีเข้ามาทำงานในเมือง เขตอ้อมน้อยโรงงานย้อมผ้าทำงานอยู่ 7 ปี ซึ่งแต่ละวันต้องคลุกคลีอยู่กับสารเคมีย้อมและฝุ่นละอองผ้าตลอดเวลา นับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของการเป็นโรคภูมิแพ้ ช่วงนั้นรู้สึกทรมานและสงสารตัวเองมากๆ แต่ต้องทนทำงานเพราะตอนนั้นแนวความคิดของผมยังขาดวิสัยทัศน์อยู่มากและมองไม่เห็นวิธีทำงานที่สร้างรายได้ได้มากกว่านั้น และยังต้องเก็บตังค์ส่งให้แม่ทางบ้านเพราะครอบครัวในสมัยนั้นยากจนมาก...ต้องเก็บผัก เก็บหน่อไม้ ไปตระเวนแลกข้าวสารมาหุงกินกัน ทำงานผ่านไป 7 ปี เหนื่อยกับชีวิต(ไม่ใช่เป็นคนขี้เกียจนะครับ) ช่วงนั้นผมเริ่มปฏิบัติใหม่ๆเกิดศรัทธาเลยลางานไปบวชปฏิบัติอยู่ 2 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมได้รู้จักว่านขันหมากเศรษฐี รู้สรรพคุณว่าว่านชนิดนี้รักษาโรคภูมิแพ้ได้ จึงได้เริ่มทานว่านชนิดนี้ ผ่านไป 7 วัน รู้สึกว่าจมูกโล่งขึ้น น้ำมูกและเสลดลดลง ผ่านไป 20 วัน อาการคัดจมูกและน้ำมูกที่มีเริ่มลดหายไปเรื่อยๆ เสลดที่มีหายไป ทุกวันนี้ผมมีความสุขมากจากการที่เป็นภูมิแพ้ติดตัวมา 30 ปี บัดนี้หายขาดไปจากชีวิตของผมแล้ว ...ไม่ใช่ว่าที่ผมพูดนี้เพราะเชียร์ขายของนะครับ..แต่อยากบอกจากใจจริงว่า" ถ้าไม่มีว่านขันหมากเศรษฐี ผมก็ยังทรมานไม่หายอย่างแน่นอน ) ผมต้องขอขอบคุณว่านชนิดนี้อยู่ตลอดเวลา ทุกวันนี้หลังจากสุขภาพกายและใจดีขึ้น วิถีชีวิตก็ดีขึ้น ความสุขก็มีมากขึ้นครับ ทุกวันนี้ผมกับแฟนมีชุดขาวปฏิบัติธรรมติดรถอยู่ตลอดเวลา เดินทางไปทางไหน เจอะงานปฏิบัติธรรม หรือสมโภชพุทธาภิเษกก็แวะปฏิบัติธรรมและทำบุญทุกๆครั้งไป มันก็เป็นความสุขทางกายและทางใจดีครับ.....





- ถ้าเป็นพระสงฆ์สั่งซื้อผมขอปวารนาตัวถวายให้ท่านฉันฟรีเลยนะครับ
หมายเหตุที่สำคัญที่สุด : ทุกประเภท ทุกชนิด จัดส่งฟรี ทั่วประเทศครับ 

สอบถามโดยตรงครับ : หมอพืชอานนท์ 089-6889946,090-9569093
บัญชีธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขาโลตัสเดชอุดม ชื่อบัญชี นายอานนท์ แก้วมั่น เลขที่บัญชี 849-0067-147 ขอบคุณครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. มีจิตที่เป็นกุศลทางใจ มากมายขนาดนี้ พระพุทธศาสนาอยู่ได้เกิน 5000 แน่ๆเลยครับผม ขออนุโมธนาบุญด้วยครับผม

    ตอบลบ